บทสัมภาษณ์แกงค์ก.ข.ค. โดยนักข่าวนิรนามจากนิตยสารชื่อไม่ค่อยดังแห่งหนึ่ง ผู้ไม่แน่ใจว่าจะรอดจะการสัมภาษณ์นี้หรือไม่
เกวลิน (ชื่อเล่น - แก้ม)
นักข่าว : ได้ยินมาว่าคุณแก้มช่วยตำรวจปิดคดีดัง ๆ ได้หลายคดีจริงหรือเปล่าคะ
เกวลิน : (เกาหลังหู) แหม...ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แล้วก็ไม่ใช่คดีดังอะไรด้วย เผอิญมันมาเกี่ยวข้องกับเรา เราในฐานะพลเมืองดีก็ต้องช่วยไปเท่าที่จะทำได้จริงไหม
นักข่าว : ไม่รู้สึกว่ามันจะเป็นการก้าวก่ายงานของตำรวจหรือคะ แบบว่าไปช่วยโดยเขาไม่ได้ร้องขอมาน่ะค่ะ เรียกว่าอะไรนะ...ส...ส...อะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ
เกวลิน : เอ๊ะ คำถามมันแปลก ๆ นะ นี่ยวนหรือเปล่า
นักข่าว : ไทยค่ะ คุณแม่มีเชื้อจีนนิดหน่อย แต่ไม่มีเชื้อญวนในตัวเลบ
เกวลิน : (แข้งขาชักกระตุก)
นักข่าว : ว่าแต่กระเป๋าที่ถือนั่นกุชชี่ของแท้รุ่นใหม่หรือเปล่าคะ สวยดี ของมีราคาแบบนี้ดูไม่เหมาะกับเอ่อ...ลูกสาวคนขับแท็กซี่เท่าไหร่นะคะ
เกวลิน : ทำไม ลูกสาวคนขับแท็กซี่หิ้วกุชชี่ไม่ได้หรือไง (ยะ)
นักข่าว : แหม ก็มัน...เกินหน้าเกินตาไปหน่อยมังคะ อีกอย่างไม่ค่อยเหมาะกับสาวทอมบอยหน้าตาบ้าน ๆ แบบคุณแก้มเลย ถามตรง ๆ แบบวูปี้เกิดมาคุ้ยนะคะว่าคุณแก้มทำงานไซด์ไลน์ด้วยหรือเปล่า อุ๊ยเป็นอะไรคะเหมือนตาชักกระตุก
เกวลิน : นี่หล่อน...เอ๊ยคุณนักข่าว ถึงพ่อฉันจะเป็นคนขับแท็กซี่ แต่คุณตาฉันน่ะมหาเศรษฐีนะ กระเป๋าแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วง
นักข่าว : อ๋อ อวดร่ำอวดรวย แถมยังเพ้อนึกว่าเป็นนางเอกละครต้องปลอมตัวมาเป็นลูกคนขับแท็กซี่อยู่แฟลตกระจอก
เกวลิน : ไม่ได้ปลอมโว๊ย ลูกสาวแท็กซี่ตัวจริงเสียงจริง แต่ทนไม่ไหวแล้ววุ๊ย เจ๊...ลากแม่นี่ไปเขมือบที (หันไปตะโกนที่ใส่ร้านอินเตอร์เนต)
นักข่าว : ว๊าย ผีเสื้อสมุทรผุดขึ้นกลางแฟลต!
(นักข่าวสาวนิรนามของเราอาจจะรอดจากปากเหี่ยว...เอ๊ย...ปากเหยี่ยวของเจ๊ขบูรหรือไม่ โปรดติดตาม)
ขบูร (ชื่อเล่น – เจ๊คนงาม , สุดสวย , สวยสุดในแฟลต , สวยเรียกแม่ และบูนนี่)
นักข่าว : เอ่อ ก่อนอื่นขอเวลาแป๊บนะคะเจ๊ ขอหนู...จะ...จุดธูปก่อน คือหนูไม่ได้พกยันต์กันผีมาน่ะคะขอจุดธูปเซ่นไหว้แล้วกันนะคะ
ขบูร : มันจุดไหว้อะไรของมันดอกเดียว แล้วนี่ไม่ต้องมาวนแถว ๆ หน้าฉันนะยะหล่อน จะไหว้อะไรไปปักไกล ๆ เลย
นักข่าว : เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูจุดไหว้บอกกล่าวแล้วไม่ต้องตามไปหลอกหนูนะคะเจ๊
ขบูร : ใครจะไปหลอกหล่อนยะ (ตวัดค้อนหนึ่งที) หน้าตาเป็นเต้าหู้ยี้แบบนี้ เทียบกับเจ๊แล้วหาความงามเท่ากระผีกยังไม่มีแล้วนี่ถามหน่อยเถอะหนังสือหล่อนไม่มีนักข่าวหนุ่มหล่อเอ๊าะ ๆ เลยหรือไงแม่คุณ ถึงส่งมาแต่พวกลูกน้ำชักกระตุกอย่างหล่อนนี่
นักข่าว : หนูกระตุกเพราะกลัว...เอ๊ย...เกรงใจเจ๊น่ะค่ะ คืองี้นะคะส่วนใหญ่หนังสือเขาใช้นักข่าวผู้หญิงค่ะ แต่ช่างภาพเป็นพี่ผู้ชายพี่คนที่ถือกล้องอยู่นั่นไงคะ พี่เขาเคยประกวดหนุ่มโดเบอร์แมนด้วยนะคะ
ขบูร : วุ้ย ผ่านเวทีประกวนมานี่เองถึงได้มาดเท่ อยากร้องเพลงกินตับกับเจ๊ไหมจ๊ะพ่อรูปหล่อ แผล็บ แผล็บ
นักข่าว : แหม ลิ้นเจ๊ยาวจังนะคะ อ้าว พี่ช่างภาพจะวิ่งไปไหนล่ะนั่น งานยังไม่เสร็จเลยนะ ไม่เอา อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียวหนูกลัว ไม่ถงไม่ถามอะไรแล้ว
ขบูร : อ้าว แล้วนั่นมันจะสวมตีนหมาเปิดแน่บไปทำไมกัน เจ๊ไม่ใช่คนสวย เริ่ด เชิดหยิ่งข่มพวกคนที่ด้อยกว่าอย่างแม่นั่นเสียหน่อย ขวัญแน่ะ ไปจิก...เอ๊ยไปตามสองคนนั้นกลับมาหน่อยเถอะ ถ้าตามได้คนเดียวเอาแค่ช่างภาพนะ นักข่าวไม่ต้องเดี๋ยวเจ๊จุดเทียนเขียนเอ๊ง
ครองขวัญ (ชื่อเล่น – ขวัญ)
นักข่าว : แหมน้องสวยจังเลยนะคะ ยิ่งมองใกล้ ๆ ก็ยิ่งสวย เคยคิดจะประกวดเป็นซูเปอร์โมเดลไหม นิตยสารพี่มีจัดประกวดนะ ถ้าน้องยังไม่มีพี่เลี้ยงเดี๋ยวพี่เป็นพี่เลี้ยงให้ได้นะ
ครองขวัญ : ไม่ละค่ะ ขวัญไม่สน (ประสานมือทั้งสองข้างบนตักอย่างเรียบร้อย) ขวัญชอบทำงานที่ใช้ความสามารถมากกว่า
นักข่าว : เป็นนางแบบหรือดาราก็ต้องใช้ความสามารถเหมือนกัน ไม่ใช่ทำกันง่าย ๆ นะ แต่
เชื่อพี่สิ น้องทำได้แน่ ๆ
ครองขวัญ : ขอบคุณค่ะ พี่เชื่อแต่ขวัญไม่มั่นใจตัวเองหรอกค่ะ คนเราถ้าทำอะไรที่ใจไม่ได้รักคงทำได้ไม่ดีหรอกค่ะ
นักข่าว : แหม เสียดาย อย่างน้องนี่อย่างน้อยต้องติดท๊อปไฟว์แน่
ครองขวัญ : อย่าเสียดายเลยค่ะ ว่าแต่พี่จะเริ่มงานหรือยังคะ
นักข่าว : ทำค่ะทำ พี่ถามหน่อยนึกยังไงมาอยู่ในแก๊งค์นี้คะ พี่ว่า...เอ่อ...กลุ่มน้องไม่ค่อยปกติกันเท่าไหร่นะคะ
ครองขวัญ : แล้วมีใครบ้างปกติละคะ คนเราก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันทั้งนั้น ขวัญว่าถึงแก้มจะแปลกแต่ก็จริงใจ เจ๊ขบูรก็เหมือนกันค่ะ พี่เจอรุจหรือยังคะ รายนั้นก็แปลก แต่ทุกคนเป็นคนดี ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่คบหาเพราะหวังผลประโยชน์อะไร สมัยนี้ใครที่มีเพื่อนแบบนี้ได้ก็ถือว่ามีวาสนาแล้ว พี่ว่าจริงไหมคะ
นักข่าว : จ้า จริงจ้า สาธุ พี่ว่าเอาแค่นี้แล้วกัน แกงค์น้องยังเหลืออีกคนใช่ไหม
ครองขวัญ : ค่ะ เหลือรุจ โชคดีนะคะพี่
นักข่าว : ทำไมต้องอวยพรด้วย แปลกจริงเด็กคนนี้
อนิรุจ (ชื่อเล่น – รุจ)
นักข่าว : คนสุดท้ายของแกงค์ใช่ไหมคะ รู้สึกยังไงคะที่เป็นไข่แดงหนึ่งเดียวของกลุ่ม
อนิรุจ : ดีกว่าเป็นไข่ขาว เพราะไข่แดงมีคุณประโยชน์กับร่างกายมากกว่า
นักข่าว : แหม พี่ถามจริง ๆ นะคะน้อง
อนิรุจ : ผมก็ตอบจริง ๆ
นักข่าว : ตายจริงเจอคนตรง ดีค่ะพี่ชอบ
อนิรุจ : แต่ผมไม่ได้ชอบพี่นะ เพิ่งเจอกันได้สี่นาทีสามสิบแปดวินาทีถ้าจะให้ชอบกันมันเร็วไป
นักข่าว : เอ่อ
อนิรุจ : อีกอย่างผมชอบผู้หญิงที่ปากตรงกับใจและไม่ขี้ลืม
นักข่าว : เห...อยู่ ๆ มากล่าวหากันได้ยังไงคะน้อง
อนิรุจ : ผมไม่เคยกล่าวใคร พี่พูดว่าชอบผมแต่ตาพี่ไม่ได้มองผม มองแต่พี่ช่างภาพ พี่แอบหลงรักพี่ช่างภาพอยู่แต่เขามีเมียแล้ว แถมลูกยังเล็กด้วยเพราะเสื้อเขาตรงบ่ายังมีรอยคราบแหวะ
นมของเด็กอ่อนอยู่เลย แถมยังใส่แหวนแต่งงานด้วย แล้วพี่ก็ขี้ลืม เพราะสัมภาษณ์โดยลืมกดปุ่มเดินเทป และเท่าที่ดูจากปริมาณเทป ตั้งแต่สัมภาษณ์มาลืมกดปุ่มตลอด
นักข่าว : ตายแล้วตายจริง (หน้าแดงก่ำ)
อนิรุจ : ยังไม่ตายครับ สุขภาพแข็งแรงดี แต่ควรจะออกกำลังกายหน่อยเพราะคนลักษณะอย่างพี่มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเกินได้อย่างรวดเร็ว อ้อ แล้วต้องไปเข้าคอร์สควบคุมความอารมณ์ด้วยนะครับ อาชีพอย่างพี่ถ้าไม่รู้จักคุมอารมณ์คุมสีหน้า ผมว่าทำงานลำบาก ว่าแต่จะสัมภาษณ์ใหม่ไหมครับผมจะได้ไปตามแก้มมาให้
นักข่าว : ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า ไม่ทำแล้วข่งข่าว ประหลาดล้ำเหลือเกินคนกลุ่มนี้!
ขบูรมองนักข่าวสาวที่กระฟัดกระเฟียดรีบกลับไปขึ้นรถ โดยมีช่างภาพหนุ่มตามไปอย่างงง ๆ แล้วถอนใจอย่างเจ้าลีล บ่นว่า
“หมดกัน อดดังเลยเรา นี่ถ้าส่งนักข่าวหนุ่ม ๆ มาก็ไม่เจอปัญหานักข่าวอิจฉาความงามของแหล่งข่าวอย่างเจ๊จนเผ่นกระเจิงไปอย่างนี้หรอก เฮ้อ!”